สำเนียงอังกฤษและสำเนียงอมเริกัน

ความแตกต่างของ ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน-ภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ
            ความแตกต่างระหว่าง    American English - British Englishหลายคนคงสับสนกับภาษาอังกฤษแบบอเมริกันและแบบอังกฤษ ไม่รู้ว่าอันไหนมันแบบอังกฤษ และอันไหนมันแบบอเมริกัน พวกเราคนไทยซึมซีบกับภาษาทั้ง 2 แบบ ก็เลยเอามาใช้ปนๆกันไป จนแยกแยะไม่ออกกันไปแล้วค่ะ
ภาษาอังกฤษที่ถือว่าเป็นที่ยอมรับมากที่สุดในปัจจุบันมี 2 แบบ คือ ภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ (British English) และ ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน (American English) นะคะ
 ความแตกต่างเด่นที่สุดของภาษาอังกฤษแบบบริเตน กับอเมริกาคือ แบบบริเตนจะออกเสียงคำอย่างตรงตัว a จะออกเป็น อา ตรงๆ ไม่ออกว่า แอ เหมือนอเมริกา เสียง "t" จะเน้นมาก และแบบอังกฤษจะไม่ค่อยออกเสียงตัว r ถึงออกก็เพียงนิดเดียว ส่วนเรื่องอื่นๆ ลองดูในตารางข้างล่างนี้นะคะ คุณครูยกตัวอย่างมาในบางเรื่องที่เราพอจะสังเกตกันได้ง่ายๆค่ะ

       การออกเสียงตัว "t" เมื่อตามหลังสระ
British  (ออกเสียง “ t” ปกติ)
American (เปลี่ยนเสียง “t” เป็นเสียง “d”)
water
water
waiter
waiter
matter
matter
party
party

                                                           การออกเสียงคำศัพท์บางคำที่ต่างกัน
British
American
privacy (พริ-เว-ซิ)
privacy (ไพร-เว-ซิ)
process (โพร-เซส)
process (พรอ-เซส)
vitamin (วิตามิน)
vitamin (ไวตามิน)

                                                                    การสะกดคำศัพท์ที่ต่างกัน
British
American
colour
color
cheque
check
theatre
theater
centre
center

                                                                           การออกเสียงตัว "r"
British (ออกเสียง “r” ว่า “อา-เออร์”  )
American (เน้นเสียง “r” ออกเสียงว่า“ออ-เออร”)
bar (บาร์)
bar (บอเออร)
more (มอร์)
more (มอเออร)
                                                         
                                                                  การออกเสียงตัว "t" ท้ายคำ
British
American (Drop “t”)
cut (ออกเสียง “t” ท้ายคำชัดเจน)
  cut       (ไม่ค่อยออกเสียง “t” ท้ายคำชัดเจน)     
what (ออกเสียง “t” ท้ายคำชัดเจน)
  what         (ไม่ค่อยออกเสียง “t” ท้ายคำชัดเจน)




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น